แรงเฉื่อย

เมื่อวัตถุยังอยู่ในภาวะหยุดนิ่ง การจะออกแรงพลักวัตถุให้เคลื่อนไปข้างหน้า จะออกแรงมากที่สุดเมื่อวัตถุงยังหยุดนิ่ง .. ผมนั่งคิดถึงสิ่งที่ครูผมสอนสมัยเรียนฟิสิกส์ และผมว่ามันยังจริงเสมอมาจนถึงปัจจุบัน … การจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง ยากที่สุดเมื่อเราเริ่มต้นลงมือ ที่เหลือก็จะค่อยๆ เป็นไปในแบบของมัน เพื่อนผมคนหนึ่งตั้งใจจะออกมาทำงานอิสระของ11885660_10154082607294008_218691602533533795_oตัวเอง ลาออกจากงานที่มั่นคงเพื่อออกตามหาฝัน ส่วนที่ยากที่สุดไม่ใช่การทำตามฝัน ส่วนที่ยากที่สุดคือการตัดสินใจ ก่อนที่เค้าจะลาออก เค้าคิดเสมอว่าเค้าอยากลองวิ่งตามฝันตัวเองสักครั้ง หากไม่สำเร็จด้วยประสบการณ์ทำงานเค้าก็จะสามารถกลับเค้าคอกลางทำงานได้เหมือนเดิม ภายหลังจากเค้าได้ลาออกจากงาน 2 เดือนแล้วกระมัง เค้าได้ค้นพบตัวเองหลายอย่าง ได้ดูแลสุขภาพ ได้อ่านหนังสือ ได้ปลูกต้นไม้ และพบวิธีใช้ชีวิตในแบบของตัวเองแล้ว เค้าบอกว่า ถึงแม้ว่าชีวิตเค้าจะประสบความสำเร็จในเส้นทางที่เค้าหวังหรือไม่ เค้าก็ไม่คิดจะหวนกลับไปทำงานประจำอีกแล้ว ไม่ใช่ว่างานประจำไม่ดีนะ แต่มันไม่ใช่อย่างที่เค้าต้องการอีกต่อไปแล้ว … ผมเข้าใจเพื่อนผมดี เพราะผมก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน… ผมลาออกจากการเป็นพนักงานประจำน่าจะสองปีกว่าๆ แล้วกระมัง ออกมาทำงานอิสระในวิชาชีพตัวเอง ผมเริ่มต้นจากความกลัวที่จะไม่มีกิน ผมกลัวจะออกจากพื้นที่คุ้นชิน comfort zone เพื่อมาเผชิญความท้าทายใหม่ แต่เมื่อผ่านไปผมต้องขอบคุณทุกแรงพลักที่ทำให้ผมได้ออกมาทำงานแบบนี้ เพราะลำพังตัวเองคงจะเอาชนะแรงเฉื่อย และความกลัวไม่ได้ แต่พอมีแรงมากระทำ เอาชนะแรงเฉื่อยชีวิต ก็เปลี่ยนไป …. ผมไม่ได้ชวนใครลาออกมาจากงานของตัวเองนะครับ แต่ผมกำลังชวนเรามาเอาชนะแรงเฉื่อยด้วยกัน ลองพยายามผลักดันตัวเองเพื่อค้นพบโลกใบใหม่ ลองทำสิ่งใหม่ๆ ของปั่นจักรยาน ลองถ่ายภาพ ลองเต้นรำ ลองหัดว่ายน้ำ ทำแบบเรือจำลอง เรียนขับเครื่องบินบังคับวิทยุ ฯลฯ เรามันจะชอบอ่านกระทู้ที่มีผู้คนเดินทาง เราชอบดูเค้าไปพบเจอโลกใหม่ๆ เราแอบอิจฉาที่เค้าได้พูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมใหม่ๆ ในต่างแดน แบกกระเป๋าใบเดียวแล้วก็ลุยกันไปผจญภัย แต่ผมชอบตั้งคำถามว่าทำไมเราไม่ทำเสียเองละ ก็จได้รับคำตอบมากมาย ภาระทางบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีเวลา ฯ สาระพัดกับคำตอบ …หลายๆ ครั้งก็สงสัยว่า เวลาที่เราอยากได้เพื่อนใหม่ แต่เวลาเราไปนั่งที่ร้านอาหารก็นั่งคุยกับเพื่อนตัวเองที่โต๊ะ ผมชอบนั่งเค้าเตอร์บาร์นะครับ เพราะเป็นการเชิญชวนเพื่อร่วมร้านให้ชนแก้วและเริ่มบทสนทนา กัน… ผมไม่ชอบเมาผมดื่มน้อยมาก แต่ผมชอบบรรยากาศในการสนทนากับคนแปลกหน้ามากกว่า ผมชอบนั่งฟังเรื่องราวจากผู้เดินทาง ผู้มีประสบการณ์ .. หลายคนก็คงชอบแบบนี้ แต่เค้าไม่ได้ออกจากบ้าน แล้วมันจะเจอได้อย่างไรกัน …. ผมว่าเมื่อเราเอาชนะความขี้เกียจ ความกลัว comfort zone หรือข้ออ้างต่างๆ เราก็จะค้นพบชีวิตใหม่ สังคมใหม่ ความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเองถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ใช่เรื่องที่สำคัญขนาดให้ตัดสินการมีชีวิตอยู่หรือดับไปของดวงวิญญาณ .. แต่มันก็ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ของเราสนุกขึ้นในระหว่างรอความตาย … แรงเฉื่อยมันมีแรงมหาศาล แต่ถ้าเอาเอาชนะมันได้ มันก็คุ้มค่าที่จะทำแน่นอนครับ…
เราไปออกเดินทางกัน ผมช่วยพลักสุดแรงงงงงงงง

Back to Top