จงค้นหาเป้าหมาย ตกหลุมรัก เขียนหนังสือ

ขณะที่ผมกำลังว่ายน้ำรอบเช้าอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงว่าวจากครูสอนว่ายน้ำ ที่กำลังดุเด็กว่า อย่าว่ายน้ำเหมือนการว่ายน้ำคลองอย่างนั้นสิ นี่มันสระว่ายน้ำ เอามือแนบหูยืดตัวตรงๆ ผมหยุดว่ายน้ำ นั่งมองที่ขอบสระ ครูสอนว่ายน้ำกำลังสอนท่าว่ายน้ำที่ถูกวิธีตามหลักของเค้า ซึ่งมันแตกต่างจากการว่ายน้ำคลองแบบของผม ผมพยายามเรียนรู้และแอบฝึกฝนตามที่11834768_10154051574804008_4254500349549651096_oครูคนนั้นสอนเด็กทุกอย่าง ผมว่าผมพอจะว่ายน้ำได้อย่างถูกหลักการของครูว่ายน้ำคนนั้นนะ แต่ผมรู้สึกว่ามันขัดต่อการว่ายน้ำตามธรรมชาติของผม ผมรู้สึกว่าค่อนข้างฝืนมากๆ กับธรรมชาติการว่ายน้ำคลองที่พ่อผมสอนมตั้งแต่ยังเด็ก หมุนมือ ว่ายไปข้างหน้า ให้มีชีวิตรอดให้ได้ ผมพยายามว่ายตามหลักที่ถูกต้องอยู่เพียงสักพักหนึ่ง ผมก็หันมาว่ายน้ำในแบบที่ตัวเองถนัด ผมรู้สึกว่าการว่ายน้ำในแบบของตัวเองผมชอบมันมากกว่าในแบบที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่ามันจะไม่เร็วเหมือนใครๆ แต่ผมก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะแข่งขันอยู่แล้ว ผมเพียงว่ายน้ำเพื่อเอาตัวรอดตามหลักที่ผมถูกสั่งสอนเท่านั้นเอง ผมว่ายน้ำครบ 10 รอบ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรในเวลารวมกัน สี่สิบห้านาที ผมว่าผมก็พอใจในทุกอย่างที่ผมทำนะ มันอาจจะเหมาะกับผมมากกว่าการว่ายน้ำที่ถูกต้อง การดำเนินชีวิตของเรานั้นผมว่าเราควรมีสิทธิเลือกที่จะเดินในแบบที่ตัวเองต้องการ ได้เลือกท่าว่ายน้ำที่ตัวเองถนัด แล้วทุกๆ นาทีในการว่ายน้ำเราจะเป็นสุขถึงแม้มันจะไม่เร็วเหมือนใครแต่เราก็ยังได้เลือกว่ายแบบนี้เอง ก็ต้องยอมรับผลในการว่ายน้ำแบบนี้เองสิ ผมเดินขึ้นจากสระว่ายน้ำผมคิดถึงบทหนังเรื่อง John Carter ในฉากสุดท้าย ที่พูดว่า “จงค้นหาเป้าหมาย ตกหลุมรัก เขียนหนังสือ” เป็นประโยคสั้นที่มันฝังหัวผมอยู่ ตอนนี้ผมหาเป้าหมายในชีวิตแล้ว ว่าผมจะต้องการทำอะไร แล้วผมจะตกหลุมรัก ไม่ว่าจะรักคน หรือรักในสิ่งที่ผมอยากจะทำ เพราะว่าความรักสำคัญมาก สำคัญมากพอจะให้เราอยากมีชีวิตอยู่ถึงแม้จะลำบากแค่ไหนหากเรารักในสิ่งที่จะทำหรือเรารักใครสักคน มันก็จะทำให้เราพร้อมจะต่อสู้กับทุกปัญหา และอย่างสุดท้ายจงเขียนหนังสือ เพราะการเขียนหนังสือเปรียบเสมือนการแบ่งปันประสบการณ์ในชีวิตและเล่าต่อให้คนรุ่นหลังรับฟัง ตอนนี้ผมมีท่าว่ายน้ำที่ประหลาดกว่ามาตรฐาน ตอนนี้ผมมีเป้าหมายชีวิตที่อาจจะไม่เหมือนมาตรฐานของคนธรรมดาทั่วไป ผมถูกสอนว่าต้องรับราชการ เจ้าคนนายคน น้ำซึมบ่อทราย แต่ตอนนี้ผมก็พิสูจน์กับครอบครัวแล้วว่า เป้าหมายในชีวิตผมอาจจะแตกต่างจากเป้าหมายของครอบครัวที่หวังไว้ แต่ผลตอบรับที่ได้มันก็ให้ความสุขใจกับครอบครัวไม่ต่างกันหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ตอนนี้แม่ผมเข้าใจแล้วว่า ผมอาจจะใช้ชีวิตผิดแผกแตกต่างจากชีวิตคนปกติโดยทั่วไป แต่ผมก็มีความสุขดี แม่ก็มีความสุขดี คนรอบข้างก็ยังมีความสุขดี ดังนั้นถึงแม้ชีวิตที่ผมเลือกที่จะทำเป็นเป้าหมายของผมเอง ผมก็ยังต้องรับผิดชอบต่อความฝันของคนรอบข้างด้วย คนเราจะสุขได้นานเท่าไหน ถ้าเราถึงจุดสุดยอดโดยยืนอยู่เพียงลำพัง

ถึงแม้ท่าว่ายน้ำผมจะไม่เหมือนใคร แต่ผมก็มีความสุขที่ได้ว่ายในแบบนี้ ถึงแม้เป้าหมายและการดำเนินชีวิตของผมจะไม่เหมือนใคร แต่ผมก็เลือกใช้ชีวิตแบบนี้ ถึงแม้ความรักของผมจะไม่เหมือนใคร แต่ผมก็สุขใจที่มีรักแบบนี้ ผมจึงเขียนจะเขียนหนังสือ เพื่อบอกเล่า ในสิ่งที่ผมคิด สิ่งที่ผมเป็น และในสิ่งที่ผมฝัน ให้คนที่อยากอ่านได้รับรู้ว่า ในหนึ่งมุมมองและชุดความรู้ของผมนั้น มันมีคุณค่าหรือว่ามันเป็นเพียงกองขยะเท่านั้น ผมไม่ใช่คนตัดสิน คนที่ได้อ่านต่างหากต้องเป็นผู้ตัดสินว่ามันควรเป็นสิ่งที่จดจำหรือว่ามันเป็นสิ่งที่ควรลืมเลือน “ผมจะเริ่มเขียนหนังสือครับ ช่วยอ่านมันหน่อยนะครับ”

ใส่ความเห็น

Back to Top