ยิ่งต่ำ … ยิ่งสูง

ความจริงผมจะเขียนเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ก็ลืมไปเลย จนกระทั่งเมื่อวาน ไปนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านประจำ เจอน้องอ้ำ ลูกค้าประจำของร้านเช่นกัน ผมรู้จักน้องคนนี้มา สักพักแล้ว ทุกๆ ครั้งที่เจอกันน้องมันจะรีบยกมือไหว้ผมก่อน พร้อมทักทายอย่างสุภาพซึ่งขัดต่อภาพลักษณ์รอยสักเต็มตัว บุคลิก HITPOP กวนทีนของมัน วันนี้อ้ำใส่ชุดทำงานสีขาว นั่งดื่มIMG_3397กับเพื่อนอีกคนอยู่ก่อนแล้ว ผมถือแก้วไปยืนคุยตามประสาคนเคยคุ้นเคยกัน เราถกกันเรื่องการไหว้ สัมมาคาราวะ ซึ่งผมแปลกใจว่าทำไมอ้ำมองเรื่องนี้ว่ายังไง อ้ำบอกว่าพี่เชื่อไหมว่าผมไหว้แม่บ้าน ไหว้ยาม สวัสดียามเช้า ผมว่าหากเราต้องการได้รับเกียรติ เราก็ต้องให้เกียรติเค้าก่อน เรื่องนี้ผมพยายามสอนรุ่นน้องในบริษัทฯ เก่าว่าเราควรสร้างวัฒนธรรมองค์กร ในการทักทายสวัสดียามเช้า สวัสดีตอนลากลับบ้าน ผม่ได้เสียหาย ซึ่งน้องๆ ผมเค้ายกมือไหว้ไม่เป็น เค้าคิดว่าเป็นการเสียเกียรติ มากหากเราจะสวัสดีแม่บ้าน หรือแม่แต่หัวหน้าตัวเอง แต่ทักทายผงกหัวก็พอ “หวัดดีพี่” ซึ่งในมุมมองผมเองไม่ได้หัวโบราณสักเท่าไร่ ว่าต้องยกมือไหว้เพราะตัวเองเด็กและด้อยกว่า ผมว่าการสวัสดีทักทายยกมือไหว้ เป็นการผูกมิตรและการให้เกียรติแก่ตนเอง คนที่ให้เกียรติแก่คนอื่น คนนั้นสมควรให้เกียรติมากกว่า ชาวญี่ปุ่นโค้งให้กันอย่างอ่อนน้อมหลายครั้งนั้น ยิ่งโค้งต่ำมากเท่าไร ก็สะท้อนว่าเป็นการให้ความเคารพ ให้เกียรติต่อบุคคลนั้นๆ มากเท่านั้น การเท่าเราให้เกียรติคนอื่นมากเท่าไร่ เราก็จะได้รับเกียรติจากคนอื่นไม่น้อยเช่นกัน ถ้าใครไปทานข้าวกับผม ผมจะไม่เคยเรียกพนักงานเสริฟ ว่า “น้องๆ” เลย ผมจะเรียกพนักงานเสริฟด้วยวลีติดปากว่า ” ขอโทษนะครับ พี่ น้อง ถ้าไม่แน่ใจจะใช้คำว่าคุณ ” แล้วตามด้วยสิ่งที่เราจะให้เค้าช่วยเหลือ ผมว่าวลีง่ายๆ ที่ให้เกียรติ เค้า ผมคิดว่าผมอาจจะได้รับการปฎิบัติดูแลอย่างเอาใจใจขึ้นอีกนิด อย่างให้เกียรติเช่นกัน ผมเชื่อแบบนั้นเพราะผมเคยเป็นพนักงานเสริฟอาหารในร้านของน้ามาก่อนสมัย ม.ปลาย เวลาที่คนเรียกผมอย่างให้เกียรติ ผมจะดูแลเค้าอย่างดี มองโต๊ะนี้ตลอด แต่ถ้าโต๊ะไหนที่เรียกอย่างจิกหัว ผมจะแทบไม่สนใจหรืออาจเผลอถือไม่ระวัง จามใส่ชามก่อนออกจากครัวก็ได้ แต่ผมเห็นเด็กๆ ตัวเล็กๆ สมัยนี้ บางคนพ่อแม่สอนให้เรียกคนแบบจิกหัวใช้ ผมนั่งในร้านอาหาร เด็ก 10 ขวบ เรียก พนักงานเสริฟ อายุประมาน 30 ว่า น้องๆ ขอเมนูหน่อย ซึ่งพอแม่ก็นั่งอยูตรงนั้นและไม่ตักเตือน ถือเป็นเรื่องถูกต้อง พฤกติกรรมเลียนแบบเหล่านี้ มันจะติดตัวเป็นนิสัยฐาวร ที่อาจจะทำให้เด็กลำบากไม่ได้รับการยอมรับหรือปรับตัวเข้ากับสังคมได้ในอนาคต ผมเคยนั่งคุยกับผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่ง ในร้านกาแฟ เวลาเค้าสั่งอาหารจังหวะจะโคนในการพูด แบบให้เกียรติ พนักงานเสริฟแบบนี้ ผมในฐานะที่ร่วมโต๊ะอาหาร ผมกลับรู้สึกดีใจที่ได้สนทนากับเค้า เค้าได้รับการให้เกียตริจากผม และได้รับการยอมรับจากผมแบบไม่รู้ตัว .. ผมไม่ได้พูดว่า การเรียก พนักงานเสริฟ แบบ น้องๆ จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีและผิดนะครับ ไม่ผิดและถือเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าไม่ได้ดูถูก แต่หากเราก้มต่ำเพื่อให้เกียรติ และฝึกเป็นนิสัย ผมว่ามันจะเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ ขึ้นอีกเป็นอย่างมาก … เมื่อคืน น้องอ้ำ เป็นบุคคลที่ผมเอ็นดูเพิ่มขึ้นเลย ดูมีเสน่ห์แบบไม่ต้องแต่งตัวหรูหรา เพียงแต่มันให้เกียรติทุกคน ผมบอกมันว่าเฮ้ย อ้ำ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยได้ พี่ยินดีนะ พี่ว่าแกรน่ารักว่ะ … อ้ำสวนมาว่า หาแฟนให้ผมสักคนก็พอครับพี่ …. อ้ำเอ้ยยย เล่นซะงานยากเลย ใครอยากได้แฟนหล่อนิสัยดี หลังไมร์มานะครับ ผมมีเบอร์อ้ำส่งไปให้ อิอิ

Back to Top