เกษียรในวัยหนุ่ม

เมื่อวานผมนั่งทานข้าวกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยมบนโต๊ะอาหารนั้น บนโต๊ะอาหารนั้น มีคนไร้นายจ้าง อยู่ 3 คนและมีพยาบาลอยู่ 1 คนเราเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ กันตามประสาทั่วไป ในหลายๆ บทสนทนาที่12525275_10154641227929008_7205166702467114547_oออกรสชาตินั้นมีคำถามจากเพื่อนผู้ว่างงานถามว่า “รายได้ของคนทั่วไปในกรุงเทพที่ควรจะได้รับเพื่อการอยู่อาศัยในกรุงเทพอยู่ที่เท่าไร่กัน” เป็นคำถามที่ท้าทายกับคำตอบเป็นอย่างมาก …นั่นสินะ เพื่อนที่เป็นพยาบาลบอกว่าสำหรับการใช้ชีวิตในแบบฉันรายได้เดือนละสองสามหมื่นก็อยู่ได้เพราะฉันใช้ชีวิตกินนอนที่โรงพยาบาล กินก็ไม่มีเวลากินอะไรหนักหนา สำหรับฉัน สองสามหมื่นก็พออยู่ได้… เพื่อนอีกคนหนึ่งบอกว่า ก่อนที่จะลาออกจากงาน เงินเดือนอยู่ที่เดือนละ หกหมื่นกว่าบาท รายรับอยู่ประมานปีละเจ็ดแสนกว่าบาท ก็พออยู่ได้แต่ก็ไม่ได้มีเงินเก็บอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ลาออกมาตามหาฝันใช้เงินเดือนละ หมื่นเดียวก็อยู่ได้เพราะใช้แค่กินอยู่อย่างเดียว ….ก็ยังมีชีวิตอยู่….ถึงตาผมแล้วสิ… ต้องแชร์ว่าควรจะเป็นเท่าไร่ ผมบอกว่าเดือนที่แล้วผมจ่ายค่าบัตรเครดิต ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายทั่วไปหกหมื่น ไม่รวมเงินสดที่กินใช้ทั่วไปและค่าตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นและไต้หวันรวมถึงที่พักที่ผมจองไว้เพื่อเที่ยวสำหรับเดือนหน้า… ผมยังรู้สึกว่าผมยังมีรายได้ไม่พอกับความอยากของผม…. ดังนั้นจึงเป็นคำถามที่ท้าทายนี้ ติดอยู่ในหัวผมระหว่างขับรถกลับบ้าน และผมควรหาคำตอบของผมให้ได้…ว่าควรจะเป็นเท่าไร่.. เมื่อเช้าผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมตัวเกษียร์ควรจะเริ่มต้นให้เร็วเพราะเราต้องคำนวณอายุคนเราจะมีอายุเฉลี่ยขององค์การอนามัยโลกอยู่ที่อายุ 75 ปีซึ่งหากเราไม่ทำงานแล้วควรมีรายได้เลี้ยงตัวเองจนถึงอย่างน้อยอายุ75 ดังนั้นควรมีเงินเท่าไร่ที่จะให้อยู่ได้จนถึงอายุเท่านั้นและชีวิตหลังเกษียร์ ควรมีคุณภาพชีวิตแบบไหน มันจะสะท้อนจากการเริ่มต้นในวัยทำงานนี้ … ตอนสมัยผมเรียนมหาลัย วิชาหนี้ อาจารย์ท่านเป็นผู้พิพากษาเกษียร์ท่านจะมาสอนตรงเวลาเสมอไม่เคยขาดเลยแม้สักครั้ง อยู่มาวันหนึ่งได้มีการยกเลิกการสอน .. แล้วในอาทิตย์ถัดมา ก็มีอาจารย์ท่านอื่นมาสอนแทน และแจ้งว่าอาจารย์คนเก่าท่านเสียชีวิตแล้ว โรคชรา .. ถือเป็นเรื่องที่ผมได้ฝันไว้เลย ผมอยากจะทำงานที่อยากทำจนนาทีสุดท้ายของชีวิต … ดังนั้นหากผมได้ฝันถึงวัยเกษียร์ที่ดี ผมก็ควรจะวางแผนการเกษียร์ไว้ตั้งแต่วันนี้ … ไม่ใช่แค่เก็บเงินเพื่อรอวันเลิกทำงาน ผมฝันไว้ว่าผมจะเก็บประสบการณ์เพียงพอจะใช้ทำงานไปตลอดชีวิต แต่ต้องเป็นงานที่ผมอยากทำนะ…. คำถามที่เพื่อนผมถามว่า ควรมีรายของคนในกรุงเทพควรมีเท่าไร่ … ผมจึงตอบว่า ควรจะมีเท่าที่ตัวเองอยากจะใช้อย่างที่ตัวเองฝันไว้… ถ้าถามว่าเท่าไร่ เราก็ควรมีสิทธิตอบคำถามเหล่านี้เอง ว่าเท่าไร่ … และควรเกษียร์เมื่อไร่ …. ผมกับภรรยาออกแบบชีวิตไว้ว่า เราอีกสองเดือนจะเก็บเงินเพื่อให้ภรรยาผมได้ทำตามฝันก่อน ได้เรียน ปริญาเอกที่ต่างประเทศ ภายหลังจากฝันของเธอสำเร็จ… ผมก็จะได้ทำฝันของผมที่จะหาความรู้และประสบการณ์เพียงพอที่จะทำงานโดยไม่ได้หวังรายได้ หวังเพียงแต่สนองความปราถนาของตนเอง.. เราควรออกแบบวัยเกษียร์ของเราตั้งแต่วันนี้… เพราะเมื่อวันนั้นมาถึงจะได้ไม่สายเกินไป … อยากเกษียรอายุเท่าไร่ ต้องการมีรายได้ที่เลี้ยงชีพแบบไม่ต้องทำงานเลย หรือว่าอยากทำงานเพื่อการเลี้ยงชีพในวัยเกษียร์แบบไหน … ควรออกแบบชีวิตของตนเอง …ผมไม่ได้คัดค้านวิธีคิดที่ว่าจะเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียร์ นั้นก็เป็นอีกวิธีออกแบบหนึ่งของชีวิตสำเร็จรูปที่ทำสืบต่อรุ่นกันมา … แต่หากเราวางแผนชีวิตไว้เพื่อตนเองในแบบอื่น ผมว่าก็สนุกไปอีกแบบนะครับ… ลองออกแบบชีวิตตัวเองดูสิ เพราะช่วงเกษียร์ถ้าไม่ตายก่อนเราก็ต้องมีกันทุกคนนะครับ…

Back to Top