ชีวิตความตายและฟองเบียร์

มีพรรคพวกทักว่าผมยังถ่ายรูปอยู่หรอ… คำตอบคือ ไม่ได้ถ่ายจริงจังเลยครับ … เมื่อหลายปีก่อนผมถ่ายรูปทุกอาทิตย์ แล้วลดลงมาถ่ายทุกเดือน แล้วหลายเดือนต่อครั้ง จนล่าสุด มกราคม 2015 เป็นSET สุดท้ายที่ถ่าย แล้วก็แทบไม่ได้จับกล้องอีกเลย หรือจับก็ถ่ายเมีย ถ่ายตึกไปตามเรื่องราว … ไม่ได้จับเพื่อถ่ายอย่างที่ผมถนัด ด้วยเหตุว่าไม่มีอะไรที่อยากถ่าย…​ จนมาถ่ายน้องขิมลูกสาวพี่วิน…​ เมื่อวานนี้ สองปีกว่าๆ จับกล้องอีกครั้ง ออกจะแปลกๆ ไปบ้างแต่ก็สนุกดี…แต่ฝีมือก็ตกไปตามเรื่องตามราว
หลังจากถ่ายรูปเสร็จผมได้นั่งทานข้าวกับครอบครัวนี้ ผมบอกพี่ว่า ผมอยากสุขภาพดีและแก่อย่างมีความสุขอย่างพี่วิน ..​พี่วินบอกว่า เหตุผลที่พี่ยังไม่อยากรีบตาย เพราะพี่อยากมีชีวิตอยู่เพื่อถ่าย Leica ของพี่ให้นานที่สุด … พี่มีความสุขที่ได้ถ่าย ผมนั่งฟังแล้วก็คิด … ผมว่าคนเราควรมีเหตุในการมีชีวิตอยู่นะครับ อยู่เพื่อใครสักคน หรือใครหลายๆ คน หรือยู่เพื่อทำสิ่งบางอย่างที่เป็นเป้าหมายของชีวิต ผมว่าการอยู่ด้วยสิ่งเหล่านั้นมันพลักดันให้ชีวิตเรามีความหมาย ผมได้รับการสอบถามจากพี่รัช ภรรยาของพี่วินว่า “วางแผนจะมีลูกไหม?” ผมก็ตอบอย่างไม่เต็มเสียงกลัวความไม่เข้าใจว่า “เราไม่อยากมีครับ” พร้อมอธิบายเหตุผล แต่ที่น่าแปลกใจว่าพี่รัชเข้าใจได้ง่ายมากกว่าผู้ใหญ่หลายคนที่ผมอธิบาย เราใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงกับบทสนทนาที่ออกรสและเบียร์รสนุ่ม… ผมกลับมาถึงบ้านด้วยคำตอบหลายๆ อย่างที่กลายเป็นเป้าหมายของชีวิตของผมไปเสียแล้ว…​ ผมอยากมีชีวิตที่ยืนยาวพอจะดูแลภรรยาผมให้มีความสุขทั้งชีวิต อีกทั้งผมอยากใช้ชีวิตของผมดื่มเบียร์และท่องเที่ยวถ่ายรูป ชื่นชมความงามของโลกใบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ หากเมื่อใดก็ตามที่ผมไม่อาจทำสิ่งนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ผมว่าชีวิตผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้วครับ หากอยู่โดยปราศจากในการทำสิ่งที่รัก การมีชีวิตอยู่ก็คงไร้ความหมาย
บทสนทนาสุดท้ายก่อนแยกย้ายของเรา คือเราพูดถึงความตายกันพี่วินบอกว่า ถ้าพี่ตายพี่อยากให้งานศพของพี่เป็นอย่างไร พี่รัชและขิมเบือนหน้าเหมือนไม่อยากฟังบทสนทนานี้ แต่เราก็นั่งคุยกันในมุมสนุกสนานจนสร้างบนสนทนาที่มีความสุขอย่างออกรส …. สำหรับผมนอกจากภาพสวยๆ แล้วผมยังได้นั่งฟังประสบการณ์จากผู้มาก่อน …​แบ่งปันประสบการณ์ ความผิดพลาด ความสำเร็จให้แก่กัน …. หลังแยกย้ายผมและนุ่น เราเดินขึ้นรถไฟฟ้ากันหลังฝนเม็ดสุดท้ายหมดลง การเดินกลับบ้านครั้งนี้ไม่เหมือนกับตอนที่เรามา เพราะเราได้เป้าใหม่ของชีวิตและการเตรียมการกับความตายกลับไปด้วย … ขอบคุณสายฝนที่ตกหนัก ทำให้เราได้นั่งคุยกันยาวๆ เสียที

ใส่ความเห็น

Back to Top