ปารีสในทัศนะของข้าพเจ้า

 

จริงๆ ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้อยู่หลายวันแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสและเวลาที่จะเขียนเรื่องนี้ได้ เมื่อหลายวันก่อนผมได้ประชุมกับลูกค้าหลังนั่งคุยงานเสร็จเราก็เปิดบทสนทนาในหัวข้อเรื่องปารีส เราคุยกันหลายเรื่องที่ว่า ปารีสในความคิด กับปารีสในความเป็นจริง ก่อนหน้าจะไปปารีสลูกค้14853294_10155354824999008_4860291087582112016_oาชาวฝรั่งเศสของผมก็บอกว่า ให้ไปเมืองอื่นอย่าไปปารีส.. ปารีสไม่เหมือนเดิมจากสมัยก่อน ไม่ใช่เมื่อสวรรค์สวยงามอีกต่อไปแล้ว ผมใช้เวลาอยู่ในปารีสสามวันผมถึงเข้าใจความหมายว่าทำไมปารีสถึงไม่เหมือนเดิม ทั้งที่ผมก็ไม่เคยรู้จักปารีสก่อนที่ผมจะไปว่าเป็นแบบไหน แต่ผมเข้าใจว่าปารีสเป็นเมืองใหญ่ที่สกปรกและอันตราย ผมกับภรรยาใช้การเดินเพื่อสำรวจเมืองปารีสเป็นส่วนใหญ่ เราจึงได้พบได้เห็นได้มีประสบการณ์ อย่างเช่นผู้อยู่อาศัยในปารีสจริงๆ เราใช้รถไฟ เราใช้รถลาง เราเดินตากฝน …
ประสบการณ์แรกของผมในปารีสที่ยังจำไม่ลืมคือคนกระโดดรถไฟ ครับผมไม่ได้พิมพ์ผิดหรอก คนกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเพื่อที่จะไปขึ้นรถไฟ ผมขออธิบายเพิ่มก็แล้วกันสำหรับคนที่ยังสงสัย โดยปกติแล้วคนทั่วไปในโลกถ้าจะขึ้นรถไฟก็จะซื้อตั๋วเพื่อขึ้นรถไฟ แต่ไม่ใช่ที่ปารีส ระหว่างที่ภรรยาผมกำลังดูแผนที่ในปารีสว่าโรงแรมเราอยู่จุดไหน ผมจึงได้ยืนอยู่หน้าที่กั้นประตู ที่ปารีสจะใช้กั๋วกระดาษแบบยาวๆ เล็กๆ เหมือนสายรัดข้อมือสอดเข้าไปในเครื่องกั้นแล้วที่กั้นจะเปิดออก แต่เท่าที่ผมยืนดู ส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการรถไฟจะกระโดดข้ามที่กั้นโกงแบบหน้าด้านๆเลย บางก็เดินสอดตัวไปกับคนที่เดินออกสวนทางเข้าไป คนที่ขึ้นรถไฟ10 คน จะมี 7 คนที่โกงและอีก 3 คนที่จ่ายตั๋วปกตินั่นคือความประทับใจแรกของผมกับปารีส และระหว่างที่เราขึ้นรถไฟ เราก็จะเจอคนไร้บ้านนอนหลับอยู่ในรถไฟ โดยตลอดการเดินทางของเราก็ย่อมเพิ่มความไม่ไว้วางใจ ผมเคยเจอแก๊งเด็กวัยรุ่นหัวเกรียนกำลังพยายามข่มขู่เจ้าของร้านขนมปังเพื่อขออะไรสักอย่างจนเจ้าของร้านต้องตะโกนเสียงดังทำท่าเอาจริงเด็กถึงไป … ผมเจอโบกี้รถไฟที่สกปรกอุดมไปด้วยฝุ่น ผมเจอคนเอาเท้าเยียดขาในที่นั่งทั้งที่ผู้คนยืนห้อยโหดรถไฟ ผมเจอขอทานเดินตามเพื่อขอเงิน ขอทานร่างใหญ่ซึ่งไม่มีทีท่าจะถอยหนีถ้าไม่ได้เงินที่เค้าขอ ผมเจอขอทานบนรถไฟเดินขอไปในทุกที่นั่งคลายๆ คนขายของในร้านอาหารบ้านเรา แต่บ้านเราเอาของขาย บ้านเค้าขอเงิน ผมเจอคนกำลังนั่งเบ่งขี้ต่อหน้าบนถนนหลักทางไป Notre Dame Cathedral ไอ้เรื่องเจอกองขี้บนทางถนนผมชินชาเสียแล้ว ผมเจอกลุ่มพี่มืดอยู่หน้าสถานีรถไฟปักหลักเดินตามขอเงิน ผมเจอกลุ่มชิปซี(กลุ่มขายของเร่พวกกุญแจ ของที่ระลึกและกลุ่มมิจฉาชีพต้มตุ๋น) จำนวนมหาศาลที่หน้าหอไอเฟล ผมเจอคนเอเชียซื้อพวงกุญแจแล้วถูกโกงต่อหน้า รับเงินมาให้ของไปไม่ครบ ผมเจอตำรวจที่ไม่สนใจอาชญากรรม ที่เกิดตรงหน้าคนเดินไปแจ้งกับตำรวจถึงการถูกล้วงกระเป๋าตำรวจก็ไม่สนใจอยากฟัง ผมอยู่ปารีสแค่ 3 วัน ทำไมผมเจอเรื่องราวขนาดนี้… ผมกลับมาเล่าประสบการณ์ที่ผมเจอมาให้กับเพื่อนฝรั่งเศสฟัง เค้าบอกว่าปัญหาต่างๆ เกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาลที่ไม่สามารถจัดการกับปัญหาอาชญกรรมได้ รวมถึงปัญหาผู้อพยบไร้บ้าน คนตกงานที่ก่อปัญหาจนไม่อาจจะแก้ได้และปารีสรอวันตายไปอย่างช้าๆ เค้าเชื่ออย่างนั้น แต่เมืองอื่นๆ นอกเหนือปารีส ก็ยังดีอยู่ยังสวยน่าเที่ยวอยู่…
ผมกับภรรยาชอบเดินเราเดินไปเพื่อดู เราเดินสำรวจ เราเดินเพื่อเรียนรู้ ถ้าใครอยากไปปารีสชมความสวยงามผมแนะนำไปกับทัวร์จะดีกว่า เพราะคุณจะได้ไม่ลงมาเดิน มาขึ้นรถไฟ มาสัมผัสในส่วนที่ไม่สวยงาม คุณอาจจะยังมีความรู้สึกดีๆ เกี่ยวกับปารีสอยู่ … แต่สำหรับผมกับภรรยา เรายังไม่มีความคิดว่าเราอยากไปปารีสอีก เนื่องด้วยปารีสในทัศนะของเรานั้นได้ติดลบและน่ากลัวไปเสียแล้ว ผมเดินทางเที่ยวยุโรปในหลายเมือง เที่ยวเอเชียในหลายประเทศ ผมบอกได้แค่ว่ามหานครปารีส เป็นเมืองที่ผมกลัวที่สุด เป็นเมืองเดียวที่เมื่อฟ้ามืดเมื่อใดจะพบสองสามีภรรยานั่งอยู่ในโรงแรมพร้อมนอนเสียแล้ว ผมมีเพื่อนผมผู้หญิงหลายๆ คนที่มีความฝันอยากไปปารีส อยากไปสัมผัสเมืองแฟชั่นชั้นนำ อยากไปเห็นบ้านเมืองอันสวยงาม … แต่… ถ้าจะไปก็ระวังกระเป๋าตัง ระวังคนเดินตาม มองซ้ายมองขวาดีๆ ตรงมุมตึก อย่าเก็บเงนไว้ที่เดียว ระวังพาสปอร์ต ระวังยิปซี …

ใส่ความเห็น

Back to Top